ถ้าใครได้ลองเล่นเกมคาสิโนหรือการพนันแบบใดๆแล้วน่าจะรู้กันดีว่าตัวเกมนั้นสามารถทำให้ผู้เล่นเกิดการติดและอยากกลับมาเล่นซ้ำอีก ส่วนมากก็จะด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันสองอย่างก็คือความอยากเล่นเพื่อความตื่นเต้นหรือความรู้สึกที่หาได้ยากจากการทำกิจกรรมอื่น และอีกอย่างก็คือความอยากเล่นเพราะมีเป้าหมายในเรื่องเอาชนะและทำเงินจากเกมให้ได้มากที่สุด สองเหตุผลนี้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องเดียวกันหรือสิ่งที่มาด้วยกันเสมอ แต่ที่จริงแล้วแนวคิดและวิธีการเล่นพื้นฐานของจุดปกระสงค์สองชนิดนี้แตกต่างกันอยู่มากพอตัว
กล่าวคือ สำหรับการที่ผู้เล่นจะเล่นเพื่อความสนุกเป็นหลักมีแนวโน้มที่จะเล่นการพนันต่อครั้งเป็นเวลานานกว่าและมีจำนวนเกมที่มากกว่า เพราะเป้าหมายคือการได้เล่นต่อไปเรื่อยๆโดยไม่ได้สนใจว่าจะได้หรือจะเสียไปมากน้อยแค่ไหน ตราบใดที่เงินยังไม่หมดและยังสามารถเล่นได้อยู่ ดังนั้นจึงคใรต้องวาแผนการเงินให้ดีและเล่นด้วยเดิมพันจำนวนต่ำ และใช้วิธีเดินเงินแบบที่ไม่ต้องทบต้น เพื่อทำให้สามารถเล่นได้หลายเกมมากที่สุด
กลับกันหากว่าผู้เล่นมีเป้าหมายเรื่องการทำเงินให้มากที่สุด รวมไปถึงเสียให้น้อยที่สุดในกรณีที่แพ้ ผู้เล่นก็ควรที่จะเล่นจำนวนเกมให้ต่ำเข้าไว้ เพราะเกมคาสิโนเกือบทั้งหมดจะมีค่าผลตอบแทนในระยะยาวในฝั่งผุ้เล่นที่เป็นลบ หรือก็แปลว่า ในทางสถิติผู้เล่นมมีโอกาสแพ้มากกว่า และการสุ่มหลายครั้งมากขึ้นก็เป็นการเร่งให้โอกาสเกิดเหตุการณ์จริง วิ่งเข้าหาค่าทางสถิติมากขึ้นเรื่อยๆ แบะต่อให้วิธีที่ผู้เล่นเลือกมาเล่นจะคิดมาแล้วว่าสามารถแพ้ติดต่อกันได้ซัก 20-30 เกมก็ตาม แต่ยิ่งเล่นนานขึ้น สุดท้ายแล้วโอกาสไม่กี่เปอร์เซนท์นั้นก็จะเกิดขึ้นและทำให้หมดตัวไปในที่สุด สรุปแล้วก็คือ ผู้เล่นควรจะสำรวจตัวเองก่อนว่าตัวเองเล่นการพนันเพื่ออะไร หรือถ้ายังไม่แน่ใจก็ให้ลองเลือกวิธีเล่นของทั้งสองเป้าหมายและลองเล่นจริงดู แล้วมาลองดูกันว่าตัวผู้เล่นพึงพอใจกับอะไรมากว่ากัน ระหว่างการได้เล่นเป็นเวลานานๆ กับการทำเงินถึงยอดและหยุดเล่นไปด้วยกำไร